สาวกสกู๊ตเตอร์หลาย ๆ ท่านคงพอจะทราบกันดีว่า Lambretta นั้น ขับเคลื่อนด้วยระบบสายพาน แต่สำหรับท่านที่กำลังเล็งแลมแหล่ม ๆ ซักคันอยู่ อาจยังมีข้อมูลในส่วนของระบบเครื่องยนต์ภายในไม่เพียงพอ วันนี้พวกเรา allRIDE จึงอยากมาแนะนำเกร็ดน่ารู้ของรถระบบสายพานให้ทั้งเหล่าสาวก และ ผู้ที่กำลังจะเป็นสาวกแลมทุกท่าน
ส่วนใหญ่รถที่ใช้ระบบส่งกำลังด้วยสายพานจะมาในรูปแบบของเกียร์อัตโนมัติ (Automatic Transmission หรือ CVT) เนื่องจากชุดสายพานจะทำหน้าที่ปรับระดับความเร็วตามกำลังอัตราเร่งของตัวรถโดยต้องไม่ยุ่งยากกับการเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งข้อดีของการขับเคลื่อนด้วยระบบสายพานนั่นก็คือการที่ตัวผู้ขับขี่ไม่ต้องเสียเวลามาตั้งโซ่อยู่บ่อยครั้ง ประหยัดเวลาในการดูแลบำรุงรักษา อีกทั้งยังมีส่วนของที่ครอบที่จะคอยป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่มาจากการขับขี่ และมีน้ำหนักเบากว่าแบบโซ่นั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ใช้รถระบบสายพานก็ควรจะตรวจเช็ค และเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะที่ได้มีการระบุไว้ในคู่มือของแต่ละรุ่น ซึ่งโดยส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณทุก ๆ ระยะ 8,000-10,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังไม่ควรจอดแช่น้ำ หรือขับขี่ลุยน้ำเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ตัวสายพานเกิดการผุกร่อนได้ ส่วนท่านใดที่ต้องการบำรุงรักษาสายพานด้วยตนเองก็สามารถทำได้โดยการใช้สเปรย์บำรุงรักษาสายพาน เพื่อรักษาเนื้อสายพาน เพิ่มแรงยึดเกาะ ความยืดหยุ่น และเสียงรบกวนที่เกิดจากการเสียดสีของตัวสายพาน มากไปกว่านั้นยังเป็นการรักษาสายพานไม่ให้ชำรุดก่อนหมดอายุการใช้งานอีกด้วย
สำหรับท่านไหนที่อาจมีความคิดว่าสายพานไม่ใช่ชิ้นส่วนสำคัญที่ต้องตรวจเช็คอยู่บ่อย ๆ ควรเปลี่ยนความคิดโดยด่วน เพราะหากไม่เปลี่ยนตามอายุการใช้งานอาจเป็นอันตรายต่อตัวรถ และผู้ขับขี่ได้
โดยควรปรึกษา ตรวจเช็ค และเปลี่ยนโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ถ้าอยากสั่งสายพานตรงรุ่นแท้จาก Lambretta โดยตรงเพื่อเพิ่มความมั่นใจก็สามารถซื้อได้ที่
Shopee G-Tokyo:
สายพาน Lambretta
และหากยังไม่มั่นใจว่าจะตรวจเช็คแลมคู่ใจของเรากับใครดี มาที่ allRIDE สิ เพราะถ้ากำลังหาคนที่เป็นตัวจริง รู้จริงเรื่องแลมก็ต้อง allRIDE ที่นี่ที่เดียว