ทริปพระนครแลมกับ Lambretta AllRide

Lambretta AllRide พาย้อนวันเวลากับทริปพระนครแลม

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา Lambretta AllRide ได้จัดกิจกรรมทริปแบบเล็กโดยให้ชื่อทริปนี้ว่า พระนครแลม ซึ่งทริปนี้จะเป็นการขี่ชม สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพ ถือว่าโชคดีมากสำหรับทริปนี้ที่การจราจรไม่เยอะ (ฮ่าๆ) เป็นการย้อนอดีตวันเวลาถ้าพร้อมกันแล้วเราจะพาทุกท่านย้อนวันเวลาไปชมบรรยากาศกับ พระนครแลม

จุดนัดหมายแรก

จุดนัดหมายแรกของการเดินทางครั้งนี้เรารวมตัวกันที่ McDonald’s ราชดำเนิน เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางย้อนเวลาผ่านเรื่องราวระดับตำนานกับ Lambretta AllRide หลายคนเคยผ่านไปผ่านมาย่านนี้เคยรู้หรือไม่ ทำไม McDonald’s สาขา  ราชดำเนินนี้ป้ายร้านเป็นสีแดงเลือดหมูออกไปทางสีน้ำตาล แน่นอนครับการเที่ยวครั้งนี้เราจะแฝงเกร็ดความรู้ไปตลอดการเดินทาง แม้แต่ผู้อ่านเองก็จะได้ร่วมเดินทางไปกับเรา ชาวแลมเบตต้า ออไรท์ ด้วยครับ

 McDonald’s สาขาราชดำเนิน

แมคโดนัลสาขาราชดำเนิน กับที่มาของป้ายที่เป็นสีน้ำตาล หรือแดงเลือดหมู ที่เป็นสาขาเดียวในโลกก็ว่าได้ครับ ความพิเศษอยู่ที่ว่า สาขานี้อยู่บนถนนแห่งตำนานของประเทศไทย นั่นคือถนนราชดำเนิน ที่รวมอาคารและสถาปัตยกรรม อันสวยงามของประเทศไทยไว้มากมาย เดิมทีก่อนการก่อสร้างทาง McDonald’s ก็ยื่นเรื่องป้ายสีแดง เหลืองที่เราคุ้นตากันมาตลอด แต่ทางเขตได้ท้วงติงเรื่องความไม่เหมาะสมของสีที่แตกต่างออกไปจากภูมิสถาปัตยกรรมของอาคารริมถนนราชดำเนิน จึงเป็นที่มาของการนำไปปรับสีและการออกแบบเพื่อให้สอดคล้องกับภูมิสถาปัตยกรรมของอาคารริมถนนราชดำเนิน ที่เป็นโทนสีเรียบและไม่ฉูดฉาด อบอวลด้วยบรรยากาศความเป็นวินเทจ จึงเป็นที่มาของการปรับสีให้สอดคล้องกับการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมของอาคารริมถนนราชดำเนิน

จึงเป็นที่มาของป้ายร้านสีน้ำตาล อมแดงเลือดหมู เพื่อสอดคล้องกับการออกแบบโดยรวมของถนนแห่งตำนานเส้นนี้ แน่นอนครับการออกแบบนี้ได้รางวัลการออกแบบด้วย มีหลักฐานเป็นป้ายประกาศทองเหลืองอยู่ด้านในร้านเลยครับ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการออกเดินทางครั้งนี้เพื่อเข้ากับ รถจักรยานยนต์ สกู๊ตเตอร์ ระดับตำนาน เราแลมเบรตต้า ออไรท์จึงเลือกสถานที่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ในถนนที่มีเรื่องราวและเป็นตำนานของประเทศไทย

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก th.wikipedia.org

ออน ล๊อก หยุ่น (on lok yun)

เมื่อทุกท่านมาพร้อมกันแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทางไปยังร้านอาหารเช้าจุดแรกที่ จิ๊กโก๋เก่ารู้จักกันนี้ ไม่ใช่แค่จิ๊กโก๋นะ แต่เป็นสภากาแฟของไฮโซ และดาราในยุคก่อนเลยทีเดียว กับ ร้าน “ออน ล๊อก หยุ่น (on lok yun)”   ร้านกาแฟสุดคลาสสิกท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุค ตำนานกาแฟ จิ๊กโก๋แห่งพระนคร และเป็นร้านที่เราพาลูกค้าเดินทางสัมผัสประสบการณ์ วินเทจกับ พระนครแลม รอบ ปฐมฤกษ์ โดย แลมเบตต้า ออลไรด์

ร้านนี้เป็นสภากาแฟดังในอดีต สืบทอดกันมา 3 รุ่น กว่า 80 ปี เป็นที่รวมของดาราทั่วฟ้าเมืองไทย ที่แวะเวียนมาศาลาเฉลิมกรุง และได้เสริฟความหอม หวานทั้งขนม นมเนย กาแฟหอมๆ ให้แก่ บรรดาไฮโซ ยุคลุงโกร่ง กางเกงแดง สุประวัติ ปัทมสูต และปัจจุบันบรรยากาศเหล่านั้นซาลง ชงสไตล์จิ๊กโก๋เก่า ไม่ต้องไปถามหาคาปูชิโน เอสเปรสโซ่ ลาเต้นะ เดียวเจอจิ๊กโก๋ พระนครเล่นงานเอา (เดียวจะหาว่าแอทไม่เตือน) แต่สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขมากกว่าอาหารมันคือความอร่อยของบรรยากาศ ที่เมื่อคุณเดินเข้าไปจะเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปอดีต ละเมียดกาแฟหอมๆ อาหารเช้า อร่อยๆ กับบรรยากาศ สุดวินเทจ

ข้อแนะนำสำหรับสมาชิกชาวแลมเบรตต้า ออไรด์ให้ไปเช้าๆหน่อยนะครับ ถ้าไปสายๆ ร้านจะต้องต่อคิวถึงหน้าร้าน เจ้าของจะสไตล์ จิ๊กโก๋ เป็นเอกลักษณ์ ทำใจหน่อยนะครับ คนที่ชอบร้านเซอร์วิสดีๆแบบร้านกาแฟสมัยใหม่อาจไม่ชอบ แต่สำหรับคนที่ชอบความเป็นตำนาน และเสพอารมณ์ความเป็นวินเทจ สิ่งเหล่านี้คือเอกลักษณ์ สำหรับรถแนะนำจอดใต้ดินของดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า ก็สะดวกดีครับ

เกือบลืมชี้เป้าให้เพื่อนๆเลยครับ เพราะมัวแต่ท้องร้องนึกถึงบรรยากาศวันนั้น ย่านศาลาเฉลิมกรุง และ ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า ร้านอยู่ที่ 72 อาคารข้างโรงภาพยนตร์เฉลิมกรุง ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 05.00-16.30 น. ของทุกวัน วันหยุดร้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ 5 วัน ตรุษจีน 3 วัน และสารทจีน 1 วัน

เสาชิงช้า

หลังจากอิ่มทั้งอาหารและบรรยากาศย้อนยุคกันแล้ว แน่นอนเราหยิบกุญแจพร้อมสตาร์ทรถต่อออกเดินทางสู่ใจกลางของกรุงเทพมหานครฯ ในอดีต หลายคนคงสงสัยว่าใจกลางของกรุงเทพมหานครนั้นคือที่ไหน วันนี้เรามีคำตอบให้ทุกคนนะครับ ใจกลางของเมืองหลวงนั้นจากจุดสังเกตทางประวัติศาสตร์ คือ “เสาชิงช้า” ครับ

เสาชิงช้าเป็นความเชื่อของคนไทยในสมัยก่อน ต้องมีการทดสอบรากฐานเมืองที่แข็งแรงด้วยการโล้ชิงช้า แข่งกัน แน่นอนครับทีมที่โล้ไปสูงที่สุดและถึงยอดชิงช้าได้จะมีถุงเงินแขวนเอาไว้ คล้ายๆกับเชิดสิงโตที่เราคุ้นตาสมัยนี้ครับ แต่ทีมที่แพ้มีบทลงโทษด้วยการฝังทั้งเป็น ถึงประโยคนี้ผู้อ่านคงตกใจแน่ครับ โห…!!! ฝังทั้งเป็นแล้วไปแข่งทำไม เป็นมุขของคนโบราณครับ เป็นการลงโทษสนุกๆ คือฝังตัวลงไปแล้วเหลือหัวไว้ ถึงเวลาก็ปล่อยตัวขึ้นมาปกติ ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นครับ (ฮ่าๆ) แต่เป็นกิจกรรมวัดใจของชายไทยสมัยก่อนที่เป็นทีมแข่งขันความแข็งแกร่งและท้าทายครับ และประเพณีการแข่งขันโล้ชิงช้าปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้วเนื่องด้วย เสาชิงช้าปัจจุบันก็เป็นโบราณสถานสำคัญของประเทศไทย และก็เป็นกิจกรรมที่มีอันตรายสูงมากครับ ประเพณีการแข่งขันนี้ จึงถูกยกเลิกไปตามกาลเวลา

ภาพจาก https://board.postjung.com/893677

แต่เมื่อเรารู้ถึงประวัติศาสตร์แล้ว สิ่งเหล่านั้นจะมีคุณค่าและความหมายขึ้นมาเสมอครับ และแน่นอนจุดนี้เป็น Thailand Landmark ที่ต่างชาติรู้จัก เราก็ไม่พลาดที่จะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพบันทึกประวัติศาสตร์ใหม่ของ New Lambrettaไว้ ไม่แน่นะครับภาพนี้อาจะเป็นตำนานภาพต่อไปก็ได้

เป็นอย่างไรบ้างครับผู้อ่าน นี่เดินทางแค่ 2 จุดนะครับตลอดทั้งการเดินทางครั้งนี้มีเรื่องราวและเรื่องเล่ามากมาย ครับ เป้าหมายต่อไปที่เราจะไปถ่ายภาพกันคือ บริเวณแถววัดพระแก้วครับ เราออกเดินทางผ่านเส้นราชดำเนินอีกครั้ง เลี้ยวซ้ายผ่าน บริเวณสนามหลวงและจอดรถแถวหน้าศาลหลักเมือง เพื่อไปถ่ายภาพสนุกสนานกันบริเวณสนามหลวง เนื่องจากเป็นเวลาสายๆ การจารจรของนักท่องเที่ยวคับคั่งเราจึงอดนำรถเข้าไปถ่ายด้วยไม่เป็นไรครับ ไว้โอกาสหน้าเดียวเราหาโอกาสไปใหม่กันครับ ขอจบ Part แรกไว้เท่านี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวมันจะยาวเกินไปครับ ติดตามชม Part 2 ได้เร็วๆ นี้ครับกับ พระนครแลม

Related posts

คุยกับเราผ่านทาง SOCIAL MEDIA

Follow Us

สนใจออกรถ Lambretta กับเรา