EP2 ทริปพระนครแลม

เมื่อ EP ที่แล้วพาไปกินร้านอาหารเช้าระดับตำนานอย่าง ออน ล๊อก หยุ่น (on lok yun) ต่อมาไปถ่ายรูปที่เสาชิงช้า ซึ่งในอดีตเคยมีประเพณี โล้ชิงช้า แต่ด้วยความอันตรายจึงเลิกประเพณีไป เกือบลืมไปเลยตอนรวมตัวเรารวมตัวกันที่ McDonald’s ราชดำเนิน  ใน EP2 นี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวกันต่อที่ท่ามหาราช แวะกินข้าวเที่ยง แล้วไปต่อที่หอศิลป์ ถ้าพร้อมแล้วเราไปกันเลยครับ

หลังจากชาว Lambretta ถ่ายภาพกันอย่างจุใจ ปล่อยความเท่ห์กันออกมาแล้ว จุดต่อไปที่เราจะพาทุกท่านออกเดินทางไปเที่ยววันนี้ ไม่ไกลเลยครับจากสนามหลวง ตรงผ่านกระทรวงกลาโหมไปแล้ว เลี้ยวขวาเข้าไปถนนเดียวกันวัดแจ้ง เลี้ยวขวาอีกครั้งบริเวณท่าเตียน บริเวณนี้บอกได้คำเดียวว่าสวยงามมากเป็นถนนที่เลียบแม่น้ำเจ้าพระยา คงไม่ต้องบอกนะครับแม่น้ำเจ้าพระยานั้นคืออะไร เป็นแม่น้ำที่เป็นเส้นเลือดหลักของคนไทยมาช้านาน ผ่านเส้นทางสวยงามและเราก็ได้รับการอำนวยความสะดวกจาก ลานจอดรถราชนาวีสโมสร กองทัพเรือ ที่อำนวยความสะดวกให้เราจอดรถได้และ ออกเดินเท้าไปยังอีกสถานที่นึง แต่เป็นสถานที่ใหม่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็น Landmark แห่งใหม่ของการท่องเที่ยวย่านนั้น นั่นก็คือ “ท่ามหาราช”

จัดการพาผู้ร่วมเดินทางออกเดินเท้าสู่ท่ามหาราช ไม่ไกลจากจุดจอดรถมากนัก จุดแรกที่จะผ่านคือท่าช้าง ผ่านบริเวณมหาวิทยาลัยศิลปากร ก็จะถึงทางเข้าท่ามหาราช ให้ผู้ร่วมเดินทางจิบกาแฟริมแม่น้ำเจ้าพระยามองวิถีชีวิตและบรรยากาศริมแม่น้ำ แน่นอนจุดนี้ตรงข้ามกับวังหลัง ผู้ร่วมเดินทางหลายท่านได้เล่าประสบการณ์แลกเปลี่ยนชีวิตช่วงหนึ่ง กับการเดินซื้อของ ย่านวังหลังที่สมัยก่อนนั้นจำหน่ายกระเป๋า และรองเท้ามือ 2 เยอะมากๆ ครับ ปัจจุบันสิ่งเหล่านี้อาจจะน้อยลงตามความนิยมไปตามลำดับแต่ความสุขที่อยู่ในความทรงจำกลับไม่เคยจางหายไปไหนเลยแม้แต่น้อย

จุดต่อไปที่เราจะพาผู้อ่านทุกท่านแวะเข้าชมหลายคนอาจเคยไปและหลายคนอาจไม่เคยไปเช่นกัน เราขอมาเล่าแบบย่อๆ ให้รู้จักสถานที่แห่งนี้ครับ และอยากให้พาครอบครัวไปกันถือเป็นแหล่งความรู้ในเมืองที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ชาติไทยได้อย่างดีผ่านรูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่ผสานนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาเล่าเรื่องความเป็นไทยไป พร้อมแล้วไปทำความรู้จักกันเลยครับ กับ “มิวเซียมสยาม”

มิวเซียมสยาม

พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ (Museum Siam: Discovery Museum) ภายใต้ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งแรกที่เน้น การสร้างประสบการณ์สดใหม่ในการชมพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบของแหล่งเรียนรู้ที่น่ารื่นรมย์ และช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ ให้กับประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนไทยเกี่ยวกับการสร้างสำนึกในการรู้จักตนเอง รู้จักเพื่อนบ้าน และรู้จักโลก รวมถึงการสร้าง “แนวคิดและภาพลักษณ์ใหม่” ของพิพิธภัณฑ์ในสังคมแห่งการเรียนรู้ ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อให้การเรียนรู้ประวัติศาสตร์และเรื่องราวต่างๆ เป็นไปอย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น

มีหลายห้องที่เราประทับใจมาก ห้องที่นำเสนอเล่าเรื่องราวของ “สยามประเทศ” สู่ความเป็นประเทศไทย การเปลี่ยนชื่อและเกร็ดความรู้ที่มาของไทย จากอดีตสู่ปัจจุบันผ่านสื่อผสม 4 มิติ และห้องที่ผู้ร่วมเดินทางครั้งนี้สนุกสนานมากกับ ห้องอาหารไทย ผ่านเทคนิค Media Projection Mapping วางจานอาหารลงบนโต๊ะ แล้วจะมีกราฟิคลายเส้นวัตถุดิบและส่วนผสมจวบจนกลายเป็นเมนูอาหารไทย แสนอร่อยของเรา ไม่ว่าแกง หรือพะแนง ฯลฯ ให้คาดเดากันอย่างสนุกสนานและได้ความรู้ไปพร้อมกัน ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.museumsiam.org

ร้านอาหารชมอรุณ (Chom Arun)

หลังจากได้รับความรู้ความเป็นไทยกันอย่างสนุกสนานแล้ว เราก็มาพักรับประทานอาหารกลางวัน ถึงร้านนี้เปิดได้ไม่นานเท่าไหร่ ราคาอาหารหลักร้อยแต่ วิวเนี่ยหลักล้านเลยทีเดียวกับร้าน “ชมอรุณ (Chom Arun)” ร้านอาหารเปิดใหม่ย่านท่าเตียน แม้จะยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยมากนัก แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเกาหลีกลับจองโต๊ะกันแบบคิวยาวมาก รู้ไหมว่าร้านนี้ต้องใช้เวลาจองคิว วิวดาดฟ้าตอนเย็นๆ กันถึง 2 เดือน ไม่ธรรมดาจริง

แต่วันนี้พวกเรา Lambretta AllRide เราได้รับคิวนั้นและพาเพื่อนร่วมก๊วนของเราไปรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมบรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านอาหารไทยที่สวยเก๋จนไม่อยากไปไหนต่อกันเลยทีเดียวครับ แน่นอนร้านนี้ได้เป็นโลเคชั่น ถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศหลายเรื่องเลยทีเดียวครับ

อย่าพึ่งอิจฉาไปครับเรา แลมเบตต้า ออไรท์ พร้อมมอบประสบการณ์ดีๆ แบบนี้ให้กับลูกค้าของเราในทริปต่อๆ ไป เสมอๆ หนังท้องตึงแล้วมีแรง เราก็ออกไปถ่ายรูปบน ดาดฟ้าร้านที่เห็นวิวพระปรางค์วัดอรุณ กันซักภาพ และภาพเท่ห์แบบจิ๊กโก๋รุ่นเก่า อีกซักภาพหน้าร้าน อย่าง “มะ” (มะ แทนคำนิยามของคนเท่ห์ เก๋ หรือสแลงจะคำว่า มะกัน หลายคนคงเคยได้ยินช่อง มะจัง ซึ่งหมายความว่า เท่ห์จัง นั่นแหละครับ)

ช่างชุ่ย สถานที่สุดเก๋

มุ่งสู่สถานที่สุดท้ายของวันนี้ ไปถ่ายภาพกับสถานที่ ที่ตกแต่งใน Theme Vintage Style ให้เก็บภาพเก๋ๆ เก๋าๆเป็นความทรงจำก่อนกลับบ้านกัน นั่นคือ “ช่างชุ่ย” ไปเสพงานศิลปะ แหล่งที่รวมความคิดสร้างสรรค์ พื้นเติมเต็มแรงบันดาลใจ และได้ถ่ายภาพกลับบ้านพร้อมเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวความสุขของทริปนี้ต่อไป และแยกย้ายกับกลับบ้าน แต่สิ่งที่ได้รับตลอดเส้นทางการเดินทางย้อนเวลาครั้งนี้ ที่แน่นๆคือมิตรภาพ และรอยยิ้มจากผู้ร่วมเดินทางเอง และรอยยิ้มจากผู้ผ่านไปมาตลอดทาง ความสุขกับการขี่รถระดับตำนาน “คนขับแลมเท่านั้นที่รู้”

คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการขีดเขียนตำนานบทใหม่ไปพร้อมกับเราได้ กับรถระดับตำนานที่กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง เพียงแค่คุณร่วมเดินทางไปพร้อมกับเรา Lambretta AllRide ขอบคุณครับ