ต้องเช็ก Lambretta คู่ใจยังไงให้ทริปไม่สะดุด
สถานการณ์ในช่วงนี้เริ่มมีวี่แววดีขึ้น เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมาได้เริ่มมีการเปิดห้างสรรพสินค้าเปิดสถานที่บางส่วนแล้ว ทำให้สายท่องเที่ยวอย่างเราก็คงไม่รอช้าถึงเวลาต้องเตรียมแผนการเดินทางหาสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดที่เราจะไปกันแล้วใช่ไหมล่ะครับ
เรื่องของการเดินทางไม่ว่าจะขี่รถประเภทไหนหรือว่าแบบไหนนั้นก็เชื่อว่าการเดินทางเป็นสิ่งที่ไบค์เกอร์ใฝ่ฝันกัน อาจจะเป็นเส้นทางที่ไม่ไกลขี่รถแบบสบายๆ ไปในเส้นทางใกล้ๆ แค่นี้ก็ช่วยเติมความสดชื่นให้กับชีวิตได้มากขึ้นแล้ว แต่ก็อาจจะมีสักครั้งที่อยากจะเดินทางยาวๆ ใช้ชีวิตอยู่กับรถที่เรารักไปตามเส้นทางที่เราไม่คุ้นเคยกันได้อย่างเต็มที่ แค่นี้ก็ทำให้สายนักเดินทางหรือว่าสายไบค์เกอร์มีความสุขแล้ว
และนี่ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นในความคิดการเดินทางของทุกคน นอกจากการเดินทางที่มีความหอมหวานแล้ว การวางแผนการเดินทางก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาต่างๆ ระหว่างทางไปได้มาก โดยเฉพาะรถขนาดเล็กอย่าง Scooter Lambretta ถึงแม้จะเป็นสไตล์วินเทจและบางคนก็อาจจะมองว่ารถประเภทนี้ไม่ค่อยเหมาะกับการเดินทางไกลๆ สักเท่าไหร่
แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆ แล้วรถประเภทนี้ก็สามารถเดินทางไกลได้ และก็มีหลากหลายกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวกันอยู่เรื่อยๆ แต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นรถที่ใช้ความเร็วมากมายนัก หลายๆ คนที่ขี่ Lambretta ออกทริปท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศ 2 ข้างทาง ที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยเจอ เรามีโอกาสได้เห็นวิถีชีวิตของคนในที่นั้นๆ ตาม 2 ข้างทาง
แน่นอนว่าการขี่เป็นเวลานานๆ ต้องมีอาการเมื่อยอยู่แล้ว ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการขับขี่บนถนน ของรถขนาดเล็กก็คือการเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเส้นทาง การเตรียมคงามพร้อมของรถ และเตรียมความพร้อมของร่างกาย
ก่อนเริ่มเดินทางไปกับ Lambretta ต้องเตรียมตัวเบื้องต้น
อันดับแรกเลยคือการสำรวจเส้นทางที่จะเดินทางไปนั้นควรจะดูจุดแวะพักเติมน้ำมัน เพราะด้วยรถที่มีขนาดถังน้ำมันไม่ใหญ่จะทำให้ต้องเติมน้ำมันบ่อย ดังนั้นถ้าให้ดีก็ควรเช็กว่าเส้นทางนั้นมีปั้มน้ำมันช่วงไหนบ้าง ถ้าจะถามว่าแล้วจะรู้ได้ยังไง งานนี้ก็ต้องบอกว่ายุคนี้โซเชียลช่วยเราได้มาก เราสามารถหาข้อมูลเส้นทางและระยะของปั้มน้ำมันได้ไม่ยาก อาจจะสอบถามจากพี่ๆ ในกลุ่มก่อนเดินทาง หรือสำรวจจาก Google Map ก็ได้เช่นกันครับ
เมื่อทราบระยะทางการเดินทางแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาก็คือเรื่องความพร้อมของตัวรถ ก่อนออกเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถขนาดเล็กหรือใหญ่ สิ่งที่ต้องทำก็คือการเช็กความพร้อมของรถ ไม่ใช่เพียงแค่เอารถเข้าศูนย์เท่านั้น แต่ควรจะเช็กความพร้อมของรถด้วยตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
การที่เราใช้งานเองย่อมจะรู้ดีว่ารถของเรามีความเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขนาดไหน เริ่มตั้งแต่การเช็กระบบไฟรอบรถก่อนว่าไฟสามารถส่องสว่างหรือว่าให้สัญญาณกับเพื่อนร่วมทางได้ครบทุกดวงหรือไม่ โดยเฉพาะไฟหน้าและไฟท้าย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
ตรวจเช็กเพิ่มเติมในจุดต่างๆ
- สายคันเร่งมีรอยการชำรุดหรือไม่ ถ้ามีก็ควรเปลี่ยนทันที
- ตรวจเช็กสายเบรกว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่
- ตรวจเช็กผ้าเบรกยังมีความหนาอยู่หรือเปล่า หรือยังมองเห็นมาร์คที่เป็นตัวกำหนดการเปลี่ยนอยู่หรือไม่
- ยางไม่แตกลายงาหรือดอกยางหายจนมองเห็นสะพานยาง
- โช้คไม่มีการรั่วซึมของน้ำมัน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ทั้ง 5 ข้อนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นว่ารถที่เราจะใช้ออกไปท่องเที่ยวนั้นยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้มากน้อยขนาดไหนหรือว่าเริ่มมีอะไหล่ชิ้นไหนเสื่อมสภาพบ้าง แล้วค่อยมาลองเช็กระดับน้ำมันเครื่องว่าอยู่ในระดับที่พอดีกับในคู่มือที่แจ้งมาแล้วหรือไม่
นอกจากเช็กระดับน้ำมันเครื่องแล้วอย่าลืมเช็กว่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมานานแค่ไหนแล้ว ยิ่งถ้าไม่ค่อยได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ก็ควรที่จะรีบเปลี่ยนก่อนที่จะเดินทางไกล เพราะการเดินทางไกลถ้าหากน้ำมันเครื่องน้อยโอกาสที่เครื่องยนต์จะมีปัญหาก็มีสูงทีเดียว เพราะว่าตลอดเส้นทางจะมีความร้อนสะสมในห้องเครื่องทำให้โอกาสที่น้ำมันเครื่องพร่องเกิดขึ้นได้ และอาจจะส่งผลต่อเครื่องยนต์ในระยะยาวอีกด้วย
ตรวจเช็กสายพานเปลี่ยนตามระยะ
ที่สำคัญอีกอย่างสำหรับรถ Scooter นั่นก็คือเรื่องการเช็กระยะการเปลี่ยนสายพาน ซึ่งสำคัญมาก บางท่านอาจจะใช้จนลืม ถ้าให้ดีอันนี้ควรเปลี่ยนตามระยะที่คู่มือกำหนด เพราะสายพานจะมีอายุการใช้งานอยู่แล้ว ถ้าปล่อยให้ขาดกลางทางหรือระหว่างทาง จากจุดเล็กๆ จะกลายเป็นเสียหายเยอะมาก การเปลี่ยนสายพานตามตารางเช็กระยะจะเปลี่ยนทุกๆ 10,000 กิโลเมตร
นอกจากนี้ถ้าหากเจอจุดข้อสงสัยหรือว่าบกพร่องของรถก็ให้รีบแก้ไขก่อนที่จะเดินทาง เมื่อตรวจเช็กแล้วจุดไหนที่ต้องเซอร์วิสก็สามารถจะแจ้งได้ที่ศูนย์บริการเพื่อแก้ไขตามรายการที่เราได้ตรวจเช็กมาแล้ว หรือบางจุดเราสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง อย่างหลอดไฟสามารถแก้ไขได้ไม่ยากเพียงแค่ซื้อมาเปลี่ยนหรือเข้ามาให้ศูนย์บริการตรวจเช็กทีเดียวทั้งหมดเลยก็ได้
อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราสามารถเช็กระยะได้ง่ายขึ้น
ก็คือการอ้างอิงจากคู่มือของรถที่จะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถเช็กรถมอเตอร์ไซค์ได้ง่ายขึ้นโดยระยะทางจะเป็นตัวกำหนดนั่นเอง
การเดินทางจะสนุกได้ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่การเตรียมความพร้อม จะได้ไม่ต้องไปกินข้าวลิงข้างทาง โดยเฉพาะรถที่มีความพร้อมสามารถเดินทางได้อย่างราบรื่น ไปกลับได้โดยไม่เกิดปัญหา ยิ่งถ้าเดินทางเป็นระยะทางไกลๆ ด้วยแล้วก็ควรจะเช็กความพร้อมให้มากที่สุด รถเล็กๆ อย่าง Lambretta ก็เดินทางสนุกได้เช่นเดียวกันครับ…