การเช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์หลังกลับจากเดินทางไกล

การเช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์แลมเบรตต้าคู่ใจหลังกลับจากทริป

การเช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์ คือ การทำให้มอเตอร์ไซค์ของเราอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานมากที่สุด รวมไปถึงการรักษาอายุการใช้งานให้อยู่กับเรา โดยจะเช็คตามระยะที่กำหนดหรือจะเป็นการเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองเช่น ผ้าเบรก น้ำมันเครื่อง สายพราน

จบทริปช่วงวันหยุดยาวๆ หลังเทศกาลสงกรานต์กันมาแล้ว ก่อนเดินทางหลายคนน่าจะมีการเตรียมความพร้อมของแลมเบรตต้ากันพอสมควร อาจจะเช็คความพร้อมด้วยตัวเอง แต่ถ้างานใหญ่หน่อยก็อาจจะให้ช่างช่วยเช็คความพร้อมให้ เพราะแน่นอนว่าก็คงไม่มีใครอยากจะไปแวะกินข้าวลิงกันข้างทาง ถ้าไปกันเป็นกลุ่มก็คงไม่ยากเท่าไหร่ แต่ถ้าไปคนเดียวนี่ถ้าหากรถไปเสียกลางทางก็คงจะแย่ เช่นเดียวกันช่วงเทศกาลถ้ารถไปเสียกลางทางก็คงจะหาร้านซ่อมได้ยากหน่อย ถ้าอาการหนักก็ต้องถึงกับต้องเสียค่ายกรถกันเลย

 หลายคนอาจจะมีประสบการการณ์ตรงและประสบการณ์ทางอ้อมคือเพื่อนๆ เล่าสู่กันฟังมาบ้าง ซึ่งก็ทำให้หลายคนต้องเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเดินทางไกล ที่ไม่ใช่เฉพาะการเดินทางช่วงเทศกาลเท่านั้น

การเตรียมพร้อมคือสิ่งสำคัญ เช่นเดียวกันหลังจากออกทริปมาแล้วการเช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์ให้สมบูรณ์เองก็สำคัญไม่แพ้กัน แล้วหลังจากกลับจากทริปจะต้องเช็คอะไรในแลมเบรตต้าบ้าง เราลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ต้องเช็คหลังกลับจากทริป

เช็คความเรียบร้อยหลังกลับจากทริป

ดูภาพรวมภายนอก

 อันแรกเลยกับการเช็คแลมเบรตต้าก็คือ การดูสภาพภายนอกก่อนว่ามีอะไรตรงไหนที่เสียหายหรือเปล่า ทำง่ายๆ ด้วยการเดินดูรอบๆ รถ จะหนึ่งรอบหรือสองรอบก็ได้แล้วแต่ความต้องการของเจ้าของรถ แต่ที่สำคัญจะต้องดูให้ทั่ว โดยเฉพาะริ้วรอยบนแฟริ่งรถ เชื่อว่าอย่างน้อยคนรักรถทั้งหลายก็ไม่อยากให้แลมเบรตต้าของเราต้องมีริ้วรอย เพราะราคาทำสีแฟริ่งรถหรือต้องเปลี่ยนนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะถูก รวมไปถึงการเช็คสัญญาณไฟทุกดวงด้วย เช็คให้แน่นอนโดยลองเปิดสวิตซ์เช็คการทำงานของไฟทุกดวงให้แน่ใจว่าไม่มีดวงไหนดับหรือไม่กระพริบ

เช็คระบบเบรก 

อันดับสองเราลองมาดูระบบเบรกกันสักหน่อย โดยเริ่มดูตั้งแต่ระยะการกำเบรกกันว่ายังอยู่เท่าเดิมหรือไม่ ที่ต้องดูระยะการกำเบรกก็เพราะว่าเมื่อขี่แลมเบรตต้ามาเป็นระยะทางไกลแล้ว ระยะเบรกจะเปลี่ยนไป คือต้องกำเบรกลึกมากกว่าปกติหรือไม่ สาเหตุที่ระยะกำเบรกเพิ่มขึ้นเนื่องจากระหว่างเดินทางอาจจะมีการใช้เบรกบ่อยครั้งจึงทำให้ผ้าเบรกลดลงเป็นธรรมดา

จากนั้นก็มาดูที่ผ้าเบรกว่าหายไปมากน้อยขนาดไหน ยิ่งบางคันต้องขี่ในภูเขามาด้วยแล้ว เบรกจะต้องทำงานหนักมากกว่าปกติ ซึ่งสังเกตง่ายๆ แต่อาจจะมองได้ยากหน่อย ก็คือจะมองดูที่ร่องผ้าเบรกว่าหมดไปหรือยัง ถ้าร่องผ้าเบรกหายนั่นหมายถึงว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนผ้าเบรกกันแล้วนั่นเอง และก็จะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ต้องกำมือเบรกมากกว่าปกติหรือว่าต้องกำลึกมากขึ้น

 แล้วก็อย่าลืมดูความหนาของจานดิสก์เบรกด้วยนะครับ ถ้าเป็นดรัมเบรกก็อาจจะดูที่ตัวตั้งระยะเบรกได้ง่ายหน่อย

ดูสภาพยางหลังออกทริป

 อันดับสาม ไหนๆ ดูผ้าเบรกแล้วก็ให้เลื่อนสายตามาดูความเสียหายของยางกันสักหน่อย ถึงแม้ตอนขี่จะไม่มีการรั่วซึม แต่ว่าจากระยะทางที่ขี่มาอาจจะเหยียบอะไรมาบ้าง ซึ่งเราไม่สามารถทราบได้เลย บางครั้งมีตะปูตำแต่ว่าไม่ลึกไม่ถึงกับรั่ว ถ้ามีอะไรตำอยู่ก็ควรดึงออกเลย เพราะอนาคตอาจจะทำให้ลมยางซึมออกได้ จึงเป็นเหตุผลที่ต้องเช็คด้วยเช่นเดียวกัน 

จากนั้นก็ค่อยมาดูร่องรอยการสึกของยางว่ามีส่วนไหนสึกไปบ้าง ถ้าขี่ทางยาวๆ ส่วนที่สึกมากที่สุดก็คือหน้ายาง แต่ถ้าทริปไหนขี่ในโค้งเยอะหน่อยแก้มยางก็จะสึกมากกว่าหน้ายางนั่นเอง ที่สำคัญให้ดูสะพานยางเป็นหลัก จะเป็นตัวบอกได้ดีที่สุด เมื่อสะพานยางหายก็ควรจะเปลี่ยนยางได้แล้ว อย่าใช้จนดอกยางร่อนเป็นบั้งๆ จะทำให้อันตรายมาก เพราะยางจะไม่เกาะถนนแล้วครับ

เช็คระดับน้ำมันเครื่อง

 อันดับสี่ลองมาดูน้ำมันเครื่องต่อครับว่าน้ำมันเครื่องหายไปมากน้อยขนาดไหน ในรถหลายคนอาจจะดูได้ที่ตาแมว แต่ว่าจะต้องจอดในพื้นราบและดูตอนเครื่องเย็นเท่านั้น รถขี่ยาวๆ ต้องมีบ้างครับที่น้ำมันเครื่องหาย

 เมื่อเช็คระดับน้ำมันเครื่องแล้วก็ให้ลองดูว่ามีจุดรั่วซึมของน้ำมันเครื่องตรงไหนบ้างหรือเปล่า แต่ถ้าหากไม่มีรอยรั่วแล้ว เมื่อรถขี่ผ่านระยะทางไกลๆ มาแล้วนั้นก็ควรจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลยจะดีที่สุด เพราะน้ำมันเครื่องเจอความร้อนจากทริปไกลๆ มาแล้วประสิทธิภาพการทำงานก็จะลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลที่ขี่รถระยะทางไกลมาแล้วควรจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันอีกตัวหนึ่งที่อย่าลืมก็คือน้ำมันเฟืองท้ายที่ควรจะต้องตรวจเช็คและเปลี่ยนเลยทีเดียว

 อันดับสุดท้าย ด้วยที่รถเป็นสกู๊ตเตอร์อย่างแลมเบรตต้า ก็จะต้องดูในส่วนนี้เช่นเดียวกันนั้นก็คือ สายพาน และ เม็ด ว่ามีการสึกหรอมากน้อยขนาดไหน ตรงนี้ถ้าสามารถถอดเองได้ก็ลองถอดออกมา แต่ถ้าไม่แน่ใจก็ให้ช่างถอดน่าจะดีกว่า เพื่อเช็คสายพานและเม็ด 

ถ้าสายพานมีรอยแตกหรือร้าวก่อนถึงระยะการเปลี่ยนก็ควรจะเปลี่ยนเลย เพราะถ้าให้ขาดระหว่างการใช้งานอยู่นั้นจะอันตรายและทำให้เกิดความเสียหายมาก

 บทความนี้ก็เป็นขั้นตอนการเช็ครถแลมเบรตต้าด้วยตัวเอง ในระหว่างทางที่ออกทริปก่อนออกรถทุกเช้าเองก็สำคัญเหมือนกัน ก่อนที่จะออกรถก็ควรจะตรวจเช็คแบบคร่าวๆ แต่ก็ไม่ถึงกับละเอียดขนาดนี้ แต่ก็ดูกันแบบคร่าวๆ เพื่อให้ทุกอย่างอยู่ในสภาพที่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นลมยาง เบรก สัญญาณไฟต่างๆ ต้องอยู่ในสภาพที่ดี จะเห็นได้ว่าพอกลับมาแล้วการเช็คก็ไม่สำคัญน้อยไปกว่าการเช็ครถก่อนเดินทาง ลองเอาแนวทางนี้ไปทำกันดูครับเพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่พร้อมและขับขี่ได้สนุกและปลอดภัยไปในทุกทริป หรือถ้าถึงระยะที่กำหนดแล้วแนะนำให้เข้าเช็คกับศูนย์บริการ lambretta AllRide เพื่อให้พร้อมใช้งานตลอดเวลาและรักษาการรับประกันของเครื่องยนต์เอาไว้

Related posts

คุยกับเราผ่านทาง SOCIAL MEDIA

Follow Us

สนใจออกรถ Lambretta กับเรา