5 เหตุผลทำไม Lambretta X300 ถึงเป็นรถที่คุณควรมีไว้ครอบครอง

หลังจากที่ทาง Lambretta thailand ได้มีการเปิดตัว Lambretta X300 ที่สยามพารากอน เรียกได้ว่ากระแสตอบรับออกมาเป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์รูปแบบใหม่และเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไป

วันนี้ Lambretta AllRide ได้มีโอกาสทดลองขี่ Lambretta X300 หลังจากที่รอมานาน ไม่ใช่แค่ผมแต่หลายๆ ท่านก็รอที่จะได้ทดลองสัมผัสอีกประสบการณ์ในการขับขี่ งานนี้ผมจะมารีวิวให้กับทุกท่านได้อ่านไปพร้อมๆ กัน

ความพิเศษของรุ่น Lambretta  X300 การเปิดตัวครั้งนี้ทาง Lambretta Thailand ได้เลือกพรีเซนเตอร์อย่างพระเอกหนุ่มที่มีความหลงใหลในรถคลาสสิคอย่าง ‘มาริโอ เมาเร่อ’ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์

และเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ที่งาน Motor Expo 2022 ได้มีการเปิดจอง Lambretta X300 อย่างเป็นทางการ และเปิดให้ชมตัวจริง ยอดจองภายในงานขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ เรียกได้ว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด

1. การออกแบบ Lambretta X300

งานนี้ทางผู้ผลิตได้มีการวางคอนเซปต์ Lambretta X300 มาในรูปแบบ ‘Heritage To Future’ ซึ่งเป็นโมเดลฉลองครบรอบ 75 ปี  ดีไซน์ มิติใหม่ กับรูปทรง Dimond lines การออกแบบเส้นสายบนตัวรถ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Lambretta เข้าสู่ยุคสมัยใหม่ แต่ยังคงกลิ่นอายและ DNA ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lambretta เอาไว้

2. เครื่องยนต์ของ Lambretta X300

เครื่องยนต์ได้มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดจาก V200 อย่างมาก ขนาดเครื่องยนต์ 275 ซีซี 1สูบ 4 จังหวะ 4 วาล์ว หม้อน้ำ (ใช้พัดลมระบายอากาศ 2 ตัว) แรงม้าอยู่ที่ 21 แรงม้า ซึ่งถือว่าแรงเพียงพอกับการใช้งานในเมืองและท่องเที่ยวอย่างมาก

เครื่องยนต์ของ-Lambretta-G350

การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นแบบหัวฉีดจาก BOSCH ระบบเกียร์แบบ CVT อัตราเร่งมั่นใจได้เลยว่าสามารถเปิดคันเร่งเพื่อแซงได้อย่างทันใจ เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีตั้งแต่ช่วงต้นและได้ดีที่สุดเมื่อเลย 5,000 รอบ/นาที ขึ้นไป ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 7.5 ลิตร น้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 160 กิโลกรัม

จากผลการทดสอบออกตัวของ Lambretta X300 ในช่วงเริ่มต้นรอบเครื่องยนต์มาไวกว่าเดิม ในระยะทางไม่เกิน  200 เมตรสามารถทำความเร็วได้ 70-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่รอบเครื่องยนต์ 5,000-6,000 รอบ/นาที

3. ระบบกันสะเทือน Lambretta X300

ต้องยอมรับเลยครับว่าระบบกันสะเทือนของ Lambretta X300 นั้นทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจอย่างมาก มีการพัฒนาให้นุ่มนวลกว่ารุ่น V Series ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ  Arm Link  ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Lambretta

ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบคอยล์สปริงคู่ มีการวางองศาที่ไม่ชันมาก ซึ่งระบบกันสะเทือนตัวใหม่นี้ยังคงความแน่นของช่วงล่างสามารถทำให้ Lambretta X300 เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ไม่มีอาการย้วยหรือดิ้นเวลาเข้าโค้ง สามารถรองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะบางท่านที่มีผู้ซ้อนท้ายไปด้วย

จากผลการทดสอบขับขี่ในเส้นทางรามคำแหง พบว่าสามารถรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี สปริงคืนตัวไว แต่ความนิ่มนวลทำออกมาได้ดีกว่า V series ถ้ามีคนซ้อนด้วยอาจจะนิ่มกว่าเดิมก็ได้ครับ

4. ระบบเบรกใหม่มั่นใจกว่าเดิม

รุ่นใหม่นี้ทางผู้ผลิตได้มีการใส่ระบบเบรกแบบจานเบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมกับเสริมความมั่นใจด้วยระบบเบรกแบบ ABS ทำให้ทุกการขับขี่สนุกแถมปลอดภัย ระยะที่ ABS ทำงานนั้นไม่ได้ตอบสนองไวจนเกินไป ต้องกดเยอะกว่าปกติจริงๆ ถึงจะทำงาน เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าเมื่อต้องเบรกกะทันหัน ABS จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน

5. หน้าจอแสดงผล Lambretta X300

ส่วนหน้าจอแสดงผลนั้นจะมีความคล้ายกับรุ่น V Series ด้านบนจะเป็นรอบเครื่องยนต์ ด้านล่างจะเป็นเกี่ยวกับความเร็ว นาฬิกา, ความร้อนของเครื่องยนต์, ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง, แบตเตอรี่ รวมไปถึงระยะทางรวม ส่วนด้านบนสุดจะเป็นสัญลักษณ์พื้นฐาน มีการผสมผสานกันระหว่างหน้าจอแบบ ดิจิตอลและวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็ม

สรุป

สำหรับใครที่อ่านแล้วรู้สึกมีไฟอยากทดลองขับขี่เพื่อประกอบการตัดสินใจ สามารถเข้ามาทดลองขี่ได้ที่ Lambretta AllRide ทั้ง 4 สาขา รามคำแหง, วัชรพล, ลาดพร้าว, แจ้งวัฒนะ นอกจากนี้ยังสามารถจองออนไลน์เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่คุณควรได้เฉพาะในช่วงงาน Motor Expo 2022 นี้ ขอบอกเลยครับว่าโปรโมชั่นมีถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2565 นี้เท่านั้น

Related posts

คุยกับเราผ่านทาง SOCIAL MEDIA

Follow Us

สนใจออกรถ Lambretta กับเรา