Lambretta_Model B_scooter

ทำความรู้จัก Lambretta Model B

Lambretta Model B เป็นรุ่นที่สองของ Lambretta Scooter ที่ผลิตตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 1948 ถึงมกราคม 1950 มีความคล้ายคลึงกับ Lambretta Model A รุ่นก่อนหน้า แต่มีการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ จากความสำเร็จของ Model A

Lambretta_Model B_scooter

เลือกหัวข้อที่สนใจ

หลังจากความสำเร็จของ Model A Ferdinando Innocenti ต้องการรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการปรับปรุง ดังนั้น Model B จึงมีความคล้ายคลึงกับรุ่นก่อนมาก จุดมุ่งหมายหลักคือการปรับปรุงคุณภาพการขับขี่และความสะดวกสบายในขณะเดียวกันก็รักษาสกู๊ตเตอร์ให้เป็นรูปแบบการขนส่งที่มีต้นทุนต่ำ มันเรียบง่ายพอๆ กับรุ่น A แต่การปรับปรุงทำให้มีราคาสูงขึ้น Model B ประสบความสำเร็จมากกว่า Model A โดยขายได้ 35,014 คัน เทียบกับรุ่น A ที่ขายได้ 9,669 คัน

Design Lambretta Model B

Model B เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน รุ่น A การปรับปรุงหลักอยู่ที่ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าและด้านหลังมีระบบกันสะเทือนแบบสปริง และมีคอยล์สปริงแดมเปอร์ที่ติดตั้งในแนวนอนบนเครื่องยนต์ แฮนด์บาร์ถูกขยับไปข้างหน้าและอานถูกยกขึ้น ทำให้มีถังเชื้อเพลิงที่ใหญ่ขึ้นพร้อมตำแหน่งการขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ง่ายขึ้นด้วยตัวเปลี่ยนเกียร์บนแฮนด์ ซึ่งจะกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นอนาคตทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีมาตรวัดความเร็วแบบติดที่วางขาอีกด้วย ยางถูกทำให้ใหญ่ขึ้นเพื่อคุณภาพการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น จาก 3.50*7 นิ้ว เป็น 3.50*8 นิ้ว

การขายในอดีต

การผลิต Model B ใช้เวลา 15 เดือน และมากกว่า 3 เท่าและนานกว่า Model A ถึง 3 เดือน

 

Date and Year

Production

November–December 1948

1,854

January–December 1949

31,320

January 1950

1,840

Total

35,014

การออกแบบและโครงสร้าง

  • เฟรมและตัวถัง: Model B ยังคงการออกแบบเฟรมท่อเหล็กของ Model A แต่มีการปรับปรุงบางประการ มันมีเฟรมที่ทนทานกว่า ซึ่งให้ความคงทนและความเสถียรมากขึ้น
  • ระบบกันสะเทือนหลัง: หนึ่งในความก้าวหน้าที่สำคัญใน Model B คือการเพิ่มระบบกันสะเทือนหลัง แทนที่จะเป็นด้านหลังที่แข็งเหมือน Model A, Model B มีสวิงอาร์มพร้อมชุดสปริงและแดมเปอร์ ซึ่งปรับปรุงความสบายในการขับขี่อย่างมาก
  • ระบบกันสะเทือนหน้า: ระบบกันสะเทือนหน้าถูกปรับปรุงเป็นชุดเชื่อมต่อที่นำหน้า ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าในการดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนนที่ขรุขระ

เครื่องยนต์และประสิทธิภาพ

  • เครื่องยนต์: Model B ยังคงใช้เครื่องยนต์ 123cc สูบเดียว, 2 จังหวะ คล้ายกับ Model A เครื่องยนต์นี้เชื่อถือได้และง่ายต่อการบำรุงรักษา
  • กำลังขับ: เครื่องยนต์ผลิตกำลังประมาณ 4.3 แรงม้า ซึ่งให้พลังเพียงพอสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะสั้น
  • ความเร็วสูงสุด: ความเร็วสูงสุดของ Model B ประมาณ 45 กม./ชม. (28 ไมล์/ชม.) คล้ายกับ Model A แต่ระบบกันสะเทือนที่ปรับปรุงทำให้การขับขี่รู้สึกมั่นคงและสบายขึ้นที่ความเร็วสูง

การส่งกำลังและการควบคุม

  • เกียร์บ็อกซ์: Model B มีระบบส่งกำลังแบบ 3 สปีด ควบคุมด้วยมือจับหมุนที่แฮนด์ซ้าย การตั้งค่านี้ทำให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่น
  • การควบคุม: แฮนด์บาร์ถูกออกแบบให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น และการจัดวางอุปกรณ์ควบคุมก็ใช้งานง่าย ทำให้ประสบการณ์การขับขี่ดีขึ้น

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • สตาร์ทเท้า: Model B มีระบบสตาร์ทด้วยเท้า ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพที่ช่วยให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ง่ายและเชื่อถือได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับวิธีการสตาร์ทด้วยมือที่ใช้ในบางสกู๊ตเตอร์ก่อนหน้านี้
  • ไฟ: การออกแบบไฟหน้าและไฟท้ายที่ดีขึ้นให้การมองเห็นและความปลอดภัยที่ดีกว่าสำหรับการขับขี่ในตอนกลางคืน
  • ที่นั่ง: Model B มีที่นั่งแบบอานเดี่ยวคล้ายกับ Model A แต่มีการบุนวมที่ดีขึ้นเพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการเพิ่มที่นั่งผู้โดยสารขนาดเล็ก

สุนทรียศาสตร์และสไตล์

  • ภาษาการออกแบบ: แม้ว่าจะยังคงรักษารูปลักษณ์แบบใช้งาน Model B มีความสวยงามที่ละเอียดอ่อนมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Model A เส้นสายดูเรียบเนียนและรูปลักษณ์โดยรวมดูเงางามมากขึ้น
  • ตัวเลือกสี: Model B มีหลายสีให้เลือก ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกสกู๊ตเตอร์ที่เหมาะกับสไตล์ส่วนตัวของพวกเขา สีที่พบบ่อยได้แก่ สีฟ้า, สีเขียว, และสีเทา
Lambretta Model B (3)

ผลกระทบและมรดก

  • การตอบรับในตลาด: Lambretta Model B ได้รับการตอบรับที่ดีในตลาด การปรับปรุงจาก Model A ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคที่มองหาสกูตเตอร์ที่เชื่อถือได้และสะดวกสบาย
  • อิทธิพล: Model B วางรากฐานสำหรับรุ่น Lambretta ในอนาคต โดยสร้างมาตรฐานสำหรับคุณภาพและประสิทธิภาพ ความสำเร็จของมันช่วยสร้างชื่อเสียงของ Lambretta ในฐานะผู้ผลิตสกู๊ตเตอร์ชั้นนำ

บทสรุป

Lambretta Model B เป็นก้าวสำคัญในวิวัฒนาการของสกู๊ตเตอร์ Lambretta ด้วยระบบกันสะเทือนที่ปรับปรุง, การควบคุมที่สะดวกสบายมากขึ้น, และการออกแบบที่พัฒนาขึ้น มันแก้ไขข้อจำกัดหลายประการของ Model A และให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและใช้งานได้จริงมากขึ้น Model B มีบทบาทสำคัญในการสร้างชื่อเสียงของ Lambretta ในฐานะชื่อชั้นนำในอุตสาหกรรมสกู๊ตเตอร์ โดยเปิดทางสำหรับรุ่นที่พัฒนามากขึ้นในอนาคต

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งประวัติความเป็นมาของ Lambretta ในรุ่น Model B ซึ่งยังมีอีกหลากหลายรุ่น และแน่นอนครับสำหรับใครที่อยากได้ Lambretta สามารถเข้ามาดูตัวจริงได้แล้วที่ allRIDE Lambretta

Related posts

คุยกับเราผ่านทาง SOCIAL MEDIA

Follow Us

สนใจออกรถ Lambretta กับเรา